การปฏิบัติธรรมอย่างอ้างว่าไม่มีเวลา เพราะเราสามารถปฏิบัติธรรมได้ทุกหนทุกแห่งที่เราไป ธรรมะอยู่ล้อมรอบตัวเรานี่เอง หรือ กายกับใจของเราเอง ไม่ได้ต้องไปศึกษไกลๆ แค่กายกับใจของเราเอง เมื่อย่อความมาแล้วก็แค่กายกับใจ การอ้างว่าไม่มีเวลา
สำหรับการปฏิบัติธรรม คนๆ นั้นกล่าวได้ว่าเป็นคนหลงอยู่
ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกนับไม่ถ้วน หรือ คนที่เตรียมตนไปสู่อบายภูมิ หรือ เรียกๆ
สั้นว่าไปนรกนั้นเอง
การปฏิบัติธรรมนั้นปฏิบัติได้ทุกเวลาและทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นอิริยาบทใด เริ่มตั้งแต่การยืน เดิน นอน นั่ง ไม่เลือกเวลาและสถานที่ การแบ่งเวลาระหว่างการทำงาน
และการปฏิบัติให้เท่ากัน หรืออย่างน้อยก็ควรหาหนังสือธรรมะมาอ่านบ้าง เริ่มต้น ยังดีกว่าไม่เริ่ม....เพราะเราคลาดหมายไม่ได้ว่าเราจะตายเมื่อไหร....เมื่อความตามมาเยือนไม่มีมัจจุราชองค์ช่วยท่านได้......มีเพียงตัวเราเองที่ช่วยเราได้ การทดสอบการปฏิบัตธรรมว่าได้ผลหรือไม่ หรือ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงปฏิบัติธรรมเห็นผล อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจริงจังแค่ไหน
"พระพุทธเจ้าทรงแนะนำไว้ว่า
ท่านทั้งหลายจงอย่านึกถึงความชั่ว ที่ทำมาแล้ว ความชั่วก็คือ บาป บาปก็คือ
ความชั่วเราไม่ยอมนึกถึงมัน นึกถึงความดีอย่างเดียว ควบคุมจิตให้เป็นฌาน
ให้ได้ทุกวัน ฌานก็ได้แก่ อารมณ์ชิน คิดไว้เสมอว่า เราจะเจริญสมาธิภาวนาได้ทุกอย่างเป็นพุทโธ
วันหนึ่งเราสามารถทำได้สัก10 นาที 20 นาทีก็ตาม แม้จะมีเวลาน้อย และถ้าทำได้
ให้นึกถึงภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เราชอบ แล้วภาวนาอย่างนี้ทุกวันจนชิน
อย่างนี้เรียกว่า เป็นฌาน " หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็กล่าวอย่างนี้เหมือนกัน
เมื่อเราทำไปเรื่อยๆ มันจะเกิดความเคยชิน พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า ทำให้มาก
เจริญให้มาก จักเป็นบุญบันดาน ให้เราได้ดีทั้งโลกนี้และโลกหน้า....มาดูบทความ วิธีการเข้าถึงธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน