วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

การให้อภัยศัตรู


การให้อภัยศัตรูของคุณ

การให้อภัยศัตรู จาก ประสบการณ์จากการหลงเชื่อและโดนหลอกให้เอาเงินไปลงทุน ทำให้ฉันเป็นหนี้บัตรเครดิต ฉันรู้สึกโกรธ เกลียด คิดจะเอาคืน ถึงขั้นจะทำลายให้อีกฝ่ายตาย  บ่นตำหนิ ความแค้น  แต่ฉันทำอะไรไม่ได้ เพราะฉันไม่ได้ทำสัญญาใดๆ ไว้เลย  ฉันหลงทางจมกับความทุกข์อยู่นาน ถึงเจ็ดปี ทั้งตกงาน ปัญหาครอบครัวรุ่มเร้า  เมื่อฉันได้เข้าใจความลับบางอย่าง ความลับนั้นคือการเข้าใจโลก  การเข้าใจจิตใจตนเองอย่างแท้จริง  ฉันจึงถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วศึกษาโลก ศึกษาตัวเราเอง  ว่าเรานั้นได้ดึงเอาปัญหาต่างๆ มาได้อย่างไร

ฉันศึกษาตัวเองอยู่นานจนเข้าใจตัวเองว่าต้องการอะไร มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร มีเป้าหมาย มีความฝัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสิ่งใด จะไปที่ใด  

แล้วคุณละค้นพบหรือยังว่าต้องการอะไร
ทุกสิ่งมีเกิดย่อมมีดับเป็นธรรมดาของโลกพุทธวจานะ
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี  เมื่อสิ่งนี้ดับสิ่งนี้จึงดับ
เมื่อมีขึ้นย่อมมีลง  เมื่อคุณมีทุกข์ ย่อมมีดีเกิดขึ้นตาม

ในขณะที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับฉัน  ฉันได้ทบทวนว่าฉันดึงเอาปัญหาเหล่านี้มาได้อย่างไร  คำตอบที่ได้ คือ ต้นกำเนิดทุกอย่างมาจากจิต ความอยากของฉันเอง เพราะความขาด ความอยากรวย ความพร่องในตนเอง ความประมาทไม่รอบคอบของตนเอง ที่ทำให้ฉันนั้นดึงเอาปัญหาเหล่านั้นมาหาตนเอง

เพราะความประมาทและไม่รอบคอบของตัวเอง ทำให้ฉันนั้นชักนำคนเหล่านี้มาสู่ตนเอง เหตุที่เกิดล้วนเกิดจากตัวเราเองเป็นคนชักนำให้มันเกิดขึ้น โดยการส่งสิ่งที่เป็นลบออกไปเป็นเวลานาน ความเป็นลบเหล่านั้นย่อมสะท้อนสะสมเป็นประสบการณ์ เป็นส่งแวดล้อมที่เราอยู่ ในรูปแบบที่เราส่งไป  อารมณ์ลบทั้งปวงล้วนก่อให้เกิดเป็นประสบการณ์ด้านลบทั้งสิ้น  ดังนั้นคุณควรระมัดระวังอามรณ์ลบของตัวเอง ถ้าคุณไม่หยุด เหตุการณ์แบบเดิมเรื่องเดิมๆ ที่คุณเคยเจอมา มันจะวนกลับมาให้คุณต้องพบเจออีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า  มันสามารถเกิดแบบนี้ข้ามภพข้ามชาติเลยทีเดียว จนกว่าคุณจะยอมรับมัน เรียนรู้ แก้ไข และยกจิตใจตนเองให้สูงขึ้นจากเดิม นั้นคือการให้อภัยตนเองและผู้อื่น

เมื่อฉันได้เข้าใจความลับของจิตใจตัวเอง ฉันจึงหยุด ดูปัญหา และทำความเข้าใจตัวเอง ทำความเข้าใจโลก ย้อนกลับไปจุดเดิม หยุดเพื่อไม่ให้ปัญหากลับมาอีก ฉันเลือกที่จะหยุดศึกษาจิตใจตนเอง

ทันทีที่เราคิดร้าย รู้สึกไม่ดี คิดพยาบาท ปองร้าย คิดเพ่งโทษ คิดเป็นโทษ พูดทำลาย คลื่นความสั่นสะเทือนในตัวเราจะสอดคล้องดึงดูดกระแสพลังเหตุการณ์และผู้คนแห่งความชั่วร้ายในโลกเข้ามาสู่ชีวิตเรา

เราอยากให้ชีวิตเราเป็นอย่างไร  เราพูดแบบนั้น พูดถึงคนอื่นแบบนั้น
สิ่งที่ออกจากปากเราแต่ละขณะ  แต่ละวันสร้างชีวิตเรา
ต้นกำเนิดของปัญหาทั้งหมดทั้งมวลมาจากจิตเรา เปลี่ยนแปลงขึ้นลง ดี หรือ ร้าย ตามการเปลี่ยนของจิตเรา อำนาจอยู่ในตัวเรา ที่จะเปลี่ยนแปลงให้ไปอยู่ทางไหน
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายนอก ล้วนเกิดมาจากสิ่งที่อยู่ภายในจิตเรา
ทุกอย่างที่ปรากฏขึ้นในชีวิตเรา  ล้วนมีจุดเริ่มต้นอยู่ในจิตเราทั้งนั้น
ทุกอย่างภายนอกเป็นภาพสะท้อน เป็นการแสดงความจริงที่อยู่ภายในจิตของเราเอง

ทุกอย่างที่ปรากฏในแต่ละขณะของชีวิต แม้จะไม่ใช่ผลสรุปของทุกสิ่งที่เราเป็นภายใน  แต่ก็เป็นภาพสะท้อนที่จำเป็นต่อการพัฒนาของเราในเวลานั้น

เราเปลี่ยนสถานการณ์ภายนอกโดยตรงไม่ได้  แต่เราเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในจิตเราได้ สิ่งต่างๆ ภายนอกเปลี่ยนแปลงเป็นสัดส่วนโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงภายใน

เอาชนะความเกลียด ด้วยการให้อภัย
เอาชนะความแค้น  ด้วยการให้อภัย
เอาชนะความโกรธ ด้วยการให้อภัย
เอาชนะใจตนเอง ด้วยการให้อภัยตนเอง

สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ  การให้อภัยตนเอง  ได้เริ่มต้นใหม่ ให้อภัยต่อความผิดพลาดตนเองได้เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น และจะไม่ทำมันซ้ำอีก ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้นใหม่มันจะสายต่อเมื่อคุณได้ตายไปแล้ว 

อย่างที่สองส่งมอบความรักให้ผู้ที่กระทำต่อคุณ ด้วยความรู้สึกดี ด้วยการให้อภัยเขา ให้พรแก่เขา

การที่มีอคติ มีความแค้นที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก กลับจะเป็นผลเสียต่อชีวิตในอนาคต การให้อภัยจะสามารถปลดล็อกเหตุการณ์บางอย่างที่เชื่อมโยงถึงกัน การให้อภัยไม่ใช่เป็นการช่วยคนอื่นที่ทำให้คุณเจ็บปวด แต่การให้อภัยคนอื่นคือการช่วยตัวคุณเอง เพื่อไม่ให้คุณกลับไปทำซ้ำรอบเดิม เพื่อให้คุณได้เรียนรู้ ปรับปรุงแก้ไข ยกจิตใจตัวเองให้สูงขึ้น

บางครั้ง เรื่องที่คับแค้นใจบางอย่างก็ถูกฝังอยู่ในระดับจิตใต้สำนึก จิตสำนึกจึงไม่อาจจะระลึกขึ้นมาให้อภัย ได้ ทำให้กรรมนั้นยังคงฝังอยู่ในจิต รอสนองเมื่อเหตุและปัจจัยเหมาะสมในอนาคต หรือแม้แต่ปัจจุบันก็อาจจะรับกรรมนั้นอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าเกิดจากการไม่อภัยในเรื่องใด วิธีที่จะล้างกรรมนี้ได้ก็คือ  การแผ่เมตตาการแผ่เมตตาเป็นการให้อภัยที่ลงลึกไปถึงสิ่งที่ยังคับแค้นอยู่ในจิตใต้สำนึก ซึ่งแต่ละคนมีฝังอยู่เต็มไปหมด

บางครั้งการให้อภัยศัตรู หรือ การให้อภัยใครสักคนนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้อยาก บางครั้งอาจใช้เวลาเป็น วัน เดือน ปี กว่าที่ใจจะยอมรับ กว่าที่ใจจะหายเจ็บ ภาพเก่าๆ ที่ถูกกระทำมันมักจะโผล่มาหาคุณบ่อยๆ จนต้องอดคิดถึงไม่ได้ และทำให้คุณเสียเวลาไปคิดถึงอยู่นานสองนาน ซึ่งมันจะทำให้คุณเสียเวลาเปล่า เสียพลังที่ต้องมานั่งคิดถึง วิธีที่จะช่วยคุณได้นั้นมีหลากหลายวิธี  ยกตัวอย่างคำพูดเหล่านี้จะช่วยคุณเตือนสติของคุณให้กลับมาที่ปัจจุบัน และเริ่มปล่อยวาง และการให้อภัยอีก

อารมณ์ลบทั้งปวงเมื่อคุณส่งมันต่อให้ใคร แล้วใครคนนั้นส่งต่อไปอีก อารมณ์ลบทั้งปวงมันจะสะท้อนมาคุณเป็นร้อยเท่าพันทวี เช่นเดียวกับ ความรู้สึกดี ความสุข ความรัก อารมณ์บวกทั้งปวง เมื่อคุณส่งให้ใคร แล้วใครคนนั้นส่งต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุด อารมณ์บวกทั้งหลายทั้งปวงมันจะกลับหาคุณเป็นร้อยเท่าพันทวี จนคุณรับแทบไม่ไหว แต่การรับสิ่งดีนั้นไม่จำกัด

จงหมั่นตรวจสอบความคิดตลอดเวลา หากมันเกิดขึ้นบ่อยให้มีสติระลึกรู้มองดูมันดับไป

ทุกครั้งที่คุณรู้สึกโกรธเหตุการณ์ใด หรือขุนเคือง หรืออารมณ์ด้านลบทั้งหลายเกิดขึ้น จงส่งมอบความรัก ให้อภัย   ให้พรแก่เขา ขอให้คุณจงมีแต่ความสุข ให้ระลึกรู้ในสิ่งที่คุณทำ ให้คุณได้มีโอกาสเรียนรู้ ได้รับสิ่งที่ชีวิตคุณต้องการ เป็นผลดีกับชีวิตคุณจริงๆ”  เพราะคุณให้สิ่งใดผู้อื่นสิ่งนั้นย่อมกลับมาหาคุณ ใจคุณจะปล่อยมันไปทันที

จงสูดลมหายใจเข้าออกยาว สองถึงสามครั้ง เอามือมาทาบที่หน้าอกฟังเสียงหัวใจเต้น รู้สัมผัสอาการความโกรธ เกลียด ชิงชัง แค้น เพ่งโทษ อาการร้อนๆ วูบๆ วาบๆ แล้วรวมศูนย์ความคิดไปจิตใจ ให้ใจสงบ แล้วส่งมอบความรักแก่เขา แผ่ความรักออกไปกว้างๆ

จงขอบคุณศัตรูของคุณที่ทำให้คุณมายื่นอยู่ตรงนี้ ให้คุณได้เติบโต ยกจิตใจให้สูงขึ้น แข่งแรงด้านจิตใจ เป็นประสบการณ์ ให้ชีวิตได้เรียนรู้ และไม่กลับไปทำซ้ำอีก

จงชื่นชมสรรเสริญและให้พรจะช่วยสลายสิ่งที่เป็นลบต่างๆ ไป

จงยกย่องและให้พรศัตรูของคุณ ถ้าคุณสาปแช่งศัตรูของคุณ คำสาปแช่งนั้นแหละคือของคุณ มันจะสะท้อนมาทำร้ายคุณ  ถ้าคุณเอ่ยชมหรืออวยพรให้พรแก่เขา คุณก็จะละลายความเป็นปฏิปักษ์และด้านลบทั้งปวงให้มลายหายไป แล้วคำอวยพรที่คุณเปล่งวาจาออกไปมันจะสะท้อนมาหาคุณ ขณะที่คุณเอ่ยสรรเสริญเจริญพรนั้น  คุณจะรู้สึกว่าตัวเองย้ายคลื่นไปอยู่ในความถี่ใหม่ ที่มีปฏิกิริยาสนองกลับของความรู้สึกดีๆ คลื่นความถี่นั้นก็จะสะท้อนกลับมาหาคุณเป็นร้อยเท่าพันทวี

ชีวิตเรา ตัวเรา ทุกอย่างที่เราพูด เข้าหูเราเอง เพราะเรารู้อยู่คนเดียว เพราะอีกคนไม่ได้ยินเสียงที่คุณพร่ำบ่นเลย  มีเพียงคุณเท่านั้นและคนในครอบครัวคุณเท่านั้นที่รับมันไว้เต็มๆ  ให้สิ่งใดผู้อื่นย่อมได้สิ่งนั้นกลับ

ศัตรูของคุณ รวมทั้งคุณคือพลังงานไม่ควรจะโกรธพลังงาน มันจะสะท้อนสิ่งที่เราส่งไป ให้ใจเป็นผู้ดู ผู้รู้ ปล่อยว่าง จากความคิดนั้น

จงรู้ไว้เถิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนว่างเปล่าไร้ตัวตน ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

จงรู้ไว้เถิดว่าทุกอย่างตั้งอยู่ดับไป อีกไม่นานเขาก็ต้องตาย และคุณก็ต้องตายจากไป

จงให้อภัยในความไม่รู้ของเขา  บางครั้งเขาทำไปอาจไม่ได้ตั้งใจ ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะบางครั้งสถานการณ์พาไป สภาพแวดล้อมบีบคั้นให้เป็นเช่นนั้น

จงระลึกรู้ไว้เถิดว่า ในทางศาสนาพุทธแล้ว สิ่งที่คุณได้รับอยู่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือ เรื่องดี ล้วนมาจากการกระทำของตนเองในอดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ  บางทีคุณอาจไปทำอะไรใครไว้ในอดีตชาติในแบบเดียวกันกับที่คุณกำลังได้รับอยู่ตอนนี้ 

จงระลึกรู้ไว้เถิดว่า กฎของธรรมชาตินั้นยุติธรรมสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ การที่คุณได้รับแบบนี้มันก็สมควรแก่เหตุอยู่แล้ว ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาลอยๆ หรือ ไม่มีเหตุบังเอิญใด  มีแต่เหตุนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด

หากคุณเป็นคนที่ระลึกรู้จิตใจของแต่ละคนได้คุณจะรู้ได้เลยว่าเบื้องหลังชีวิตแต่ละคนนั้น ต่างก็มีเรื่องที่เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อคุณรู้ว่าเขาทุกข์คุณจะอภัยให้เขาได้อย่างง่ายดาย เพราะทุกชีวิตเกิดมาเพื่อเรียนรู้ความเป็นไปของชีวิต

ในช่วงเวลาที่ใจเราปวด ทุกข์ เครียด กระวนกระวาย ไม่มีความสุข เป็นสัญญาณเตือนให้เราเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนความรู้สึก ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์แบบนี้ที่คุณคิดซ้ำๆ ทุกวันมันจะเริ่มนับถอยหลัง สาม  สอง  หนึ่ง  บอกว่าให้เปลี่ยนความคิดซะ ไม่อย่างนั้นมันจะเกิดขึ้นจริงๆ แล้วนะ

จงรู้ไว้ว่าทุกเหตุการณ์ไม่ดีหรือร้ายในตัวมันเอง เว้นแต่เราจะให้ความหมายมัน โลกนี้เกิดจากความว่างเปล่า

จงรู้ไว้ว่าจะมีผู้ฝึกอารมณ์ ของเรา จะมายั่วยุให้คุณโกรธ มาในรูปแบบยุงกัดทำให้คุณรำคาญใจ สามีบ่น ภรรยาบ่น ลูกเกเร ไม่ได้ดังใจ เพื่อให้คุณเลือกระหว่างการมอบความรัก กับไม่มอบความรัก คุณจงระมัดระวัง และจงเลือกที่จะให้ความรักทุกครั้งเมื่อคุณเจอเหตุการณ์ใดก็ตามไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง จงให้ความรัก ให้ความรู้สึกดี เพราะยิ่งให้ก็ยิ่งได้

ฝึกครั้งแรกๆอาจจะทำไปด้วยความรู้สึกฝืนทำ แต่เมื่อคุณทำบ่อยๆ มันจะเป็นอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น คุณจะระลึกได้ทัน และสามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้ทันการณ์ ก่อนที่อารมณ์ลบมันจะขยายใหญ่โตให้คุณกระทำบางสิ่งไม่ดีลงไป

เรามองเห็นคนอื่น เห็นโลก จากสิ่งที่เราเป็น คุณสมบัติความดีงามที่เราชื่นชมในคนอื่น เพราเรามีสิ่งนั้นอยู่ในตัวเรา เราเห็นโลกจากจุดที่เรายืน

เราตำหนิติเตียนผู้อื่น คุณสมบัติเหล่านั้นคือตัวคุณ มันแสดงออกว่าตัวคุณเป็นเช่นไร

เรารู้สึกไม่ดี คิดไม่ดี ก็สร้างโลกที่ไม่ดีตอกย้ำลึกลงในจิตวิญญาณของเรา หน้าที่ของเราคือ อะไรปรากฏขึ้นตรงหน้า มีสติรู้ทัน  เลือกความคิดคำพูด การกระทำ ที่เกื้อกูลให้สถานการณ์ ผู้คนแวดล้อม และตัวเราได้รับประโยชน์ มีชีวิตที่ดี มีความสุขมากขึ้น

พระองค์คุลีมารที่หลงเชื่ออาจารย์ของตนเองหลอกให้ไปฆ่าคน จนได้มาเจอพระพุทธเจ้า พระองค์คุลีมารก็คิดหมายจะเอาชีวิต วิ่งไล่ตามไม่ทัน จนพระองค์คุลีมารบอกให้พระพุทธเจ้าหยุด พระพุทธเจ้ากล่าวว่า เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด เท่านั้นแหละดวงตาเห็นธรรมก็เกิดขึ้น   พระองค์คุลีมาร ก็ละและปล่อยวางทุกอย่างออกบวชจนบรรลุเป็นอรหันต์  แต่ถึงกระนั้นท่านก็ได้รับกรรมของตนเองจากการฆ่าคนตาย จากการที่ชาวขว้างไม้อะไรมา  ก็มาโดนหัวท่านแตก ไปบิณฑบาตกลับมาก็มีเลือกไหลออกมา

ให้อภัยผู้อื่นที่กระทำต่อเรา ดีกว่าเราไปกระทำผู้อื่น ตามกฎแห่งแรงดึงดูดเมื่อคุณส่งมอบสิ่งใดให้ผู้อื่น สิ่งนั้นจะย้อนเข้าหาตนเอง เมื่อคุณส่งความโกรธให้ผู้อื่น ผลสะท้อนของความโกรธจะกลับมา ในรูปแบบสภาพแวดล้อมที่ทำให้คุณโกรธมากยิ่งขึ้น จงให้อภัยตัวเอง  ปล่อยว่างจากความไม่เที่ยงแท้ของอารมณ์ทั้งหลายที่มากระทบเรา ให้เรามีสติระลึกรู้อยู่เสมอ ให้เรารู้ให้ทันไวๆ

แต่ท่านยังไม่หยุด บอกให้กับพระองค์คุติลีมารมอบความรักให้ตนเองให้เต็มปรี่ให้มันล้นออกมาเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น  และศัตรูของคุณ แล้วคุณจะเข้าใจคนอื่นที่มากระทำกับคุณ

มีตำนานเล่าว่า เพื่อนสองคนนี้รักกันมาก  เพื่อนคนชื่อ แดง อีกคนชื่อดำ พอดำเดือนร้อน  ดำมาขอยืมเงินแดงก็ยืมเพราะเห็นเป็นเพื่อนรักกัน แต่พอแดงมีปัญหา ต้องการเงินคืนแดงจึงไปขอเงินคืน  แต่ดำกลับหลบหน้า เพราะไม่มีเงินให้ จนเกิดเป็นเรื่องปาดหมางใจกัน  แดงก็ไม่รู้จะทำยังไง จนไปพบพระองค์หนึ่ง  ท่านบอกให้แดง อวยพรกับเขา แดงจึงปฏิบัติตาม  ผลของการอวยพร นั้น ทำให้ดำนั้นร่ำรวยขึ้น แล้วได้นำเงินนั้นใช้คืนแดง

ในทางศาสนาพุทธให้เราแผ่เมตรตาให้ตัวเองเป็นอันดับแรกเพื่อให้จิตใจเราเย็นขึ้น แล้วต่อด้วยการแผ่เมตตาให้ผู้อื่น นอกจากผู้อื่นที่เราแผ่เมตรตาจะเป็นสุขแล้วใจเราก็เป็นสุขอีกด้วย....ทุกข์ทั้งหลายนี้ใครทำให้...ไม่มีใครทำให้นอกจากตัวเราเอง....เมื่อรู้วิธีการให้อภัยศัตรูแล้ว ก็มา เช็คว่าคุณให้อภัยหรือยัง.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มาคุณกัน