การคิดบวกบางคนก็อาจได้ยินจนคุ้นหู....แต่จะมีใครที่ปฏิบัติได้จริง....และทำได้จริง นับว่ามีน้อยคนมากที่จะทำได้ เพราะพวกเราถูกแวดล้อมไปด้วยบาปมิตร
ถูกแวดล้อมด้วยสิ่งที่ยั่วยุให้เกิดกิเลส อย่างเช่น สาวสมัยนี้มักนิยมนุ่งสั้น เปิดอก
บางคนก็อาจบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน.....แต่คุณคาดไม่ถึงหรอกว่าการที่เรานุ่งสั้นจะนำภัยมาสู่ตัวเอง....คนภายนอกเขาจะมองคุณในแง่ลบ....แล้วยังเป็นบ่อเกิดทำให้คนคิดลบ คุณก็จะกลายเป็นสื่อกลาง ทำให้คนอื่นเขาคิดลบ แล้วผลที่ตามมาคือ คุณจะดึงดูดแต่สิ่งที่เป็นลบเข้าหาตัวเอง.....แล้วอย่างนี้คุณจะบอกว่าเป็นเพราะใคร
เรื่องราวที่เราต้องเจออยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะเราเป็นคนดึงดูดมันเข้ามาเอง....ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว....
โดยเฉพราะพวกที่ชอบดูละครทั้งหลาย ดูกันจนเป็นเหมือนสิ่งเสพติด ขาดไม่ได้ ไม่ได้ดูตอนไหนก็เหมือนจะคลั่งตาย โดยที่เราไม่รู้เลยว่าพวกเราถูกดึงดูด ให้ซึมซับคำพูด
คำหยาบคาย คำพูดที่เป็นลบ ถูกฝั่งอยู่ในจิตของเราโดยอัตโนมัติ....สิ่งที่เราจ้องมองด้วยความตั้งใจ
เราจะถูกควบคุมโดยสื่อ และสิ่งเหล่านั้นที่เราดูจะซึมซับเข้าสู่จิตใต้สำนึกของเราทันที....คุณลองสังเกตดูซิว่าคุณดูทีวีวันละกี่ชั่วโมง
ถ้าคุณเอาเวลาเล่านั้นไปทำอย่างอื่นจะมีประโยชน์กว่าไหม....ไม่ต้องมานั่งให้สื่อเสนออะไรมาให้เรา....โดยที่เราไม่อยากรับ....ก็รับมาโดยไม่ได้ตั้งใจ....
ยิ่งคุณดูทีวีมากคุณรับสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อจิตมาก
และจะซึมซับเข้าสู่จิตโดยไม่รู้ตัว หรือ เรียกได้ว่าพวกเราถูกสะกดจิตโดยใช้ทีวีเป็นสื่อกลาง....คุณลองสังเกตตัวเองว่า คุณดูทีวีแล้วมีสินค้าตัวใหม่มา
เวลาที่เราไปร้านค้า เราก็มักจะซื้อตัวใหม่อย่างที่เราเห็นในโฆษณา
และทำให้เราตัดสินใจซื้อได้โดยง่าย โดยไม่ลังเลสงสัยอะไรเลย และไม่สามารถยับยังชั่งใจได้ทัน
และไม่คิดให้ถ้วนถี่เสียก่อนตัวสินใจซื้อ....
พวกเราถูกสื่อคุกครามโดยไม่รู้ตัว.....และไม่รู้ว่าเป็นโทษ.....ฉะนั้นเราอยู่ในโลกของสื่อมีทั้งด้านดีและไม่ดีปะปนกันไป...ทีนี้เราจะโทษสื่อฝ่ายเดียวก็ไม่ได้....เราต้องโทษตัวเอง....เราต้องคอยระวังตัว....คอยควบคุมตัวเอง....คอยเตือนตนเอง...คอยยับยั้งชั่งใจตนเอง...คอยควบคุมความคิดลบ
คอยความคิดอกุศลทั้งหลายแหล่...ไม่ให้มาเดินพุกพ่านในจิตของเรา...เราจะต้องคอยระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ.....
เราต้องรู้จักคิดวิเคราะห์....หาเหตุผล ผลได้
ผลเสีย มีประโยชน์
ไม่มีประโยชน์ มีโทษ ไม่มีโทษ
มีผลกระทบต่อคนอื่นไหม หรือไม่มี.....เป็นต้น ฝึกให้มีในตนอยู่เสมอเราจะได้เป็นคนยับยั้งได้....และเราจะไม่ทำตามสื่อหรือสิ่งที่มากระตุ้นให้เราต้องอะไรบ้างอย่างลงไปได้โดยง่ายๆ เกริ่นมาเยอะละที่นี้ก็มาถึงบทความที่ช่วยเพิ่มให้เราคิดบวกกันแล้ว นำบทความข้างล่างนี้ไปติดไว้บนฝาผนังบ้านหรือที่ใดที่เราเห็นชัด
ท่องให้ขึ้นใจ ให้มันนอนแช่อิ่มอยู่ในจิตใจของเราตลอดเวลา ความคิดลบ
ความคิดอกุศล เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่
เราก็นำมาหักล้างกันได้ทันท่วงที.....เพื่อสลายความคิดลบไปจากใจเรา
ฉะนั้นต่อไปนี้เป็นการวางรากฐานความคิดให้คิดบวก ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเป็นอย่างไร จะถูกยั่วยุให้คิดลบมากแค่ไหน.....เราต้องรักตัว....เราต้องระวังตนเอง....คอยควบคุมความคิดตัวเองให้คิดบวก และน้อมนำธรรมะเข้ามาแก้ไข และบทความต่อไปนี้เป็นบทความที่ฝึกให้คิดแต่เรื่องที่เป็นบวกบทความแรก
การวางรากฐานความคิดให้คิดบวก
๏ คนที่เริ่มต้นฝึกตนเองให้คิดบวกให้นำบทความนี้ไปอ่านก่อนทำการอ่านบทความอื่น
เป็นบทความต้นเพื่อทำให้คนรู้จักในการคิดบวก.....คลิ๊กเข้าไปอ่าน ๏ รู้จักกับคำว่าขอบคุณ
และพลังของการขอบคุณ
๏ บทความสอนให้เรารู้จักทำอะไรเพื่อโลกที่เราอยู่บ้าง
๏ เติมรักให้โลก
๏ บทความนี้เป็นการเตือนตนเองให้คิดบวก
๏ ข้อดีของการคิดบวกตลอดเวลา
๏ ใครที่หนี้เป็นสินให้นำบทความนี้ไปท่องให้ขึ้นใจ
๏
ฝึกคิดบวกในด้านความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์พูนสุข
๏ ใครที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเองเริ่มจากบทความนี้
๏ ฝึกคิดบวกด้านความเชื่อมั่นในตนเอง
๏ ใครที่ยังไม่เข้าใจตนเองและไม่รู้คุณค่าในตัวเองอ่านบทความนี้
๏
วิธีคิดบวก และการขอบคุณ ตัวเอง
๏ ใครที่รู้ตัวว่าไม่มีความอดทนอ่านบทความนี้
๏ พูดที่กระตุ้นใจให้มีมานะ
๏ ใครที่มีปัญหาด้านความจำให้นำบทความนี้ไปท่องจำให้ขึ้นใจ
๏
วิธีคิดบวกและการขอบคุณความจำ
๏ ใครที่มีปัญหาด้านสุภาพให้อ่านบทความนี้
๏
วิธีคิดบวกและการขอบคุณ
สุขภาพ ๏ วิธีใช้คำพูด ในการลดน้ำหนัก
๏ ใครที่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างไม่ดีแนะนำเรื่องนี้
๏ วิธีคิดบวก
และการขอบคุณ ความสัมพันธ์
๏ ใครต้องกานสิ่งใดที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคตใช้บทความนี้
๏ วิธีคิดบวก และ ขอบคุณ สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคต
๏ วางแผนความคิดไปล่วงหน้า
ด้วยบทความนี้ ๏ วิธีคิดบวก และการ ขอบคุณ ล่วงหน้ายามเช้า
๏ ก่อนจะนอนควรคิดบวกด้วยบทความนี้
๏
วิธีคิดบวก และการขอบคุณ ก่อนเข้านอน
๏ และสุดท้าย
การเพิ่มพลังจิตของเรา ๏ วิธีคิดบวก และการขอบคุณ พลังจิตของคุณ
เลือกอ่านเฉพาะที่เรามีปัญหา หรือจะอ่านหมดก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่การให้เราคิดบวกและเพิ่มพลังให้เราได้ชั่วคราว....ยังไม่เป็นการถาวร
และยังเจือไปด้วยกิเลส ยังเจือไปด้วยความอยาก แต่ถ้าอยากให้เราดีขึ้นถาวร ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการกำจัดความคิดที่เป็นอกุศลด้วยบทความเรื่อง
การวางรากฐานความคิดให้คิดแต่เรื่องกุศล
บางคนบอกว่าอ่านจนตาจะถลนอยู่แล้ว
ให้อ่านอะไรมากมาย.....ก็แน่อยู่ละ....ใครจะตั้งหน้าตั้งตาอ่านได้มากมายขนาดนี้ แต่อยากหมดหนี้
หมดทุกข์ หมดปัญหา
หมดเรื่องกวนใจ หมดกิเลส หมดสภาพของความจน
จะต้องอ่านจนตาถลน....เพราะการจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบได้ต้องใช้เวลา และใช้ความอดทนอดกลั่นอย่างสูง....ถ้ามันไม่มีบททดสอบ
คนกว่าครึ่งค่อนโลกก็คงไม่ต้องทุกข์ทรมานกันแบบนี้หรอก....โลกนี้เต็มไปด้วยพิษไข้ของกิเลสตัณหา
ราคะ รัก โลภ โกรธ หลง จนต้องทำให้พวกเราต้องเป็นทุกข์อยู่นี่ไง......ไปอ่านต่อ.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน