ทุกข์เพราะรักทำให้เราต้องยึดติดอยู่กับคนๆ นั้นตลอดเวลา หากไม่ได้เจอไม่ได้เห็นหน้าก็เป็นทุกข์
คนที่ทุกข์เพราะรัก ก็เพราะว่าเขาเอาตัวและใจของตนเองฝากไว้ที่ผู้อื่น
ชีวิตยึดติดอยู่กับสิ่งภายนอก ย่อมเป็นทุกข์
มนุษย์เกิดมาก็เจอแต่ทุกข์อยู่แล้ววันยังค่ำ ไม่ว่าจะเป็นทุกข์เพราะหิว
ทุกข์เพราะขับถ่าย ทุกข์เพราะร้อน หนาว เป็นต้น หากอยากจะหมดทุกข์จากความรัก
ก็ต้องนำตัวและใจของตนเองมาอยู่ที่ตัวของเราเอง
เมื่อตัวและใจอยู่กับตัวเองเราก็จะไม่ยึดติดกับคนรัก ไม่ยึดติดกับแฟน
ไม่ยึดติดกับอะไรทั้งนั้น ใจของเราก็เป็นอิสระ
อยู่ด้วยความเป็นอิสระไม่หลงไม่ยึดกับสิ่งใด แล้วความทุกข์เพราะรักก็ไม่เกิด
ถึงเกิด เราก็ปล่อยวางได้
มีนิทานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับความรัก อยากจะเล่าให้ฟัง คือ
มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก และเขาทั้งสองก็ตกลงจะแต่งงานกัน
และแล้วฝ่ายหญิงก็เข้าพิธีแต่งงานกับชายอื่นไปโดยที่เธอไม่ได้ขัดข้องอะไร ทำให้ชายคนนั้นอกหักและเป็นทุกข์จนกระทั่งถึงกับล้มป่วย
ข้าทาสบริวารก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และมีภิกษุรูปหนึ่งผ่านมา และขอพบชายป่วยคนนั้น
แต่ชายป่วยก็ไม่ได้สนใจอะไร ภิกษุรูปนั้นก็บอกให้ชายป่วยหันไปมองที่กระจก
ก็พบว่าตนเองซูบผอมมาก และจากรูปผอมก็กลายเป็นรูปคนนอนตายอยู่ริมชายหาด ผู้คนเดินผ่านไปมาก็พากันเดินหนี
และได้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเป็นศพจึงเกิดความสงสารถอดเสื้อของตัวเองคุมแล้วก็เดินหนีไป
และต่อมามีผู้ชายคนที่สองเดินผ่านมาเห็นว่าเป็นศพก็เกิดความสงสารจึงค่อยๆ
โกยทรายออกจนใหญ่พอที่จะเอาศพฝังลงไปได้ พอฝังเสร็จก็จากไป
แล้วจู่ๆ รูปที่ชายป่วยเห็นทั้งหมดในกระจกก็กลับกลายเป็นเขาเช่นเดิม
แล้วภิกษุก็ได้บอกชายป่วยว่า คนที่ถอดเสื้อคุมศพนั้นเป็นเขาเอง.....และชายคนที่ฝั่งศพให้เป็นคนที่เขาแต่งงานด้วยเพราะเขาผูกกันไว้สามชาติ
ส่วนชายป่วยผูกไว้แค่นี้ ....เมื่อชายป่วยได้เข้าใจดังนั้นแล้วก็เลยออกบวชตลอดชีวิต
จะเห็นได้ว่าหากเราเคยผูกกับใครไว้ในอดีตชาติ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือหรือด้วยการอธิษฐานก็มักจะมาเจอกันและเป็นคู่กันในที่สุด
แล้วที่นี้คนที่ทุกข์เพราะรักจงเข้าใจเสียใหม่ว่า
เราผูกกับเขาไว้แค่นี้.....ขอจบ..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน