หลักความจริงของชีวิต ก็คือ มนุษย์เกิดมาแล้วก็ แก่ เจ็บ ตาย
สิ่งเหล่านี้เป็นสัจธรรมชีวิต
ที่เราและทุกคนบนโลกใบนี้ต่างก็จะต้องเจอด้วยกันทั้งสิ้นไม่มีทางที่เราจะหนีสัจธรรมชีวิตข้อนี้ไปได้เลย
มนุษย์เกิดเท่าไหร่ต้องตายหมด สัตว์เกิดเท่าไหร่ก็ต้องตายหมด สรรพสิ่งและสิ่งของเครื่องใช้
บ้าน รถ ข้าวของเครื่องใช้ หรือ ปัจจัยสี่ สิ่งเหล่านี้ก็เสื่อมก็สิ้นสลายไปในอนาคตเหมือนกัน
ไม่มีสิ่งใดหนีรอดสัจธรรมชีวิตนี้ไปได้
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องแตกดับและสลายกลายเป็นธาตุทั้งสี่ ก็คือ ดิน
น้ำ ลม ไฟ แม้แต่ร่างกายของเราเมื่อตายก็กลายเป็นธาตุทั้งสี่
โลกของเราตั้งอยู่ในอวกาศ อวกาศตั้งอยู่บนลม เมื่อลมแปรปรวน ดิน น้ำ ไฟ
ก็ย่อมแปรปรวน โลกของเราก็เกิด แผ่นดินไหว
แล้วอะไรทำให้ลมแปรปรวน ก็กิเลสของมนุษย์ยังไงละ เมื่อจิตแต่ละดวงจิตสะสมแต่บาป
รวมกันทั้งโลก ตามกฏแห่งการดึงดูด จิตสะสมสิ่งใดไว้มากๆ
ย่อมดึงดูดสิ่งเหล่านั้นเข้าหาตน
คุณลองคิดดูว่าคนที่อยู่บนโลกใบนี้ขาดศีลธรรมกันมากขึ้นเมื่อนั้นธาตุทั้งสี่ก็แปรปรวน
ย่อมดึงดูดสิ่งที่เป็นภัยแก่ตัวเองและภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเข้าหาตัวทุกขณะ
สัจธรรมชีวิตข้อนี้ไม่มีใครหนี้พ้น
หากลองสังเกตภัยธรรมชาติไม่คอยเกิดในไทยมากนัก
จะเกิดรอบนอกเสียส่วนใหญ่ เพราะตอนนี้ธรรมะของพระพุทธเจ้ายังคงอยู่ ยังมีคนปฏิบัติตามแนวของพระองค์อยู่
คนมีศีลมีธรรมก็ค่อนข้างจะมาก ธรรมชาติที่รุนแรงก็มักจะไม่เกิดกับไทยเท่าไหร่ หากเมื่อคนไทยเริ่มมองไม่เห็นสัจธรรมของชีวิตข้อนี้แล้วไซร้
ย่อมนำภัยธรรมชาติมาสู่ตัวสู่ประเทศอย่างแน่นอน อายุไขก็สั้นลง
ธรรมชาติก็เสื่อมโทรม.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน