เวลาที่เราตั้งใจถือศีล 5 เราจะมีจิตที่เป็นกุศลเกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะไม่เบียดเบียนผู้อื่นและตนเอง เราจึงได้บุญจากการถือศีล ซึ่งจุดเด่นของการถือศีลก็คือ ปริมาณบุญที่เราได้จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราถือศีล ยิ่งถือศีลนานเราก็ได้บุญมาก และการที่บุญจากการถือศีลขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราถือศีล จึงหมายความว่าทุกๆ วินาทีที่เราถือศีล เราก็จะได้บุญตลอดเวลา การรักษาศีลจึงถือได้ว่าเป็นบุญประเภทหนึ่งที่ทำให้เราได้บุญตลอด 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง
ซึ่งการได้บุญจากการถือศีลนั้น ต้องเริ่มต้นจากการตั้งใจว่าจะถือศีล ที่เรียกว่าสมาทานศีลหรือรับศีล (เพื่อมาถือ) ซึ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น ควรจะสมาทานศีลหรือรับศีล (เพื่อมาถือ) ซึ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น ควรจะสมาทานศีลทุกเช้าก่อนออกจากบ้านเพื่อเป็นการเตือนสติตนเอง โดยเราจะสมาทานตามภาษาบาลีก็ได้ตามขั้นตอน (อยู่เว็บบอร์ด)
ไปหาอ่านดู.....ถ้าใครพอรู้แล้วก็ข้ามไปก่อน....แล้วค่อยกลับมาอ่านภายหลัง.....
ความจริงแล้ว ขั้นตอนหรือ พิธีการไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือ จิตใจที่ตั้งมั่นว่าจะรักษาศีล 5 (เจตนาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด) ฉะนั้นหากลำดับหรือคำพูดที่ใช้จะแตกต่างไปจากนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
หรือ เราจะใช้ภาษาไทยก็ได้ เช่น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้า ขอตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะขอถือศีล 5 อันประกอบไปด้วย
ข้อ 1 ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ข้อ 2 ไม่ลักทรัพย์
ข้อ 3 ไม่ผิดลูกผิดเมีย
ข้อ 4 ไม่พูดโกหก
หลอกลวง พูดหยาบ
ข้อ 5 ไม่ดื่มของมึนเมา
แต่หากมีเวลาก็ควรจะกล่าวคำสมาทานเต็มรูปแบบ เพราะเป็นการแสดงความตั้งใจที่มากกว่า
ซึ่งจะทำให้เราได้บุญมากกว่า
ส่วนการไม่ตั้งใจว่าจะถือศีล (ไม่มีการสมาทาน) แล้วทั้งวันเราไม่ผิดศีลเลย เราจะไม่ได้บุญจากการถือศีล เหตุเพราะกรรมเป็นเรื่องของเจตนา การถือศีลโดยสมาทานก่อนแล้วศีลไม่ขาด (ไม่ผิดศีลเลย)
เราจะได้บุญเพราะมีความตั้งใจ (เจตนา) ที่จะทำ
ส่วนการไม่สมาทานแล้วไม่ผิดศีลเลย เราจะไม่ได้บุญ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำตั้งแต่ตอนแรก
(การกระทำที่ไม่มีเจตนาจะถือว่าเป็นกิริยา จึงไม่ได้บุญ) เหมือนเด็กทารกที่ไม่ได้ทำผิดศีลอะไรก็ไม่ได้บุญ เพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะถือศีล 5 .....เมื่อเรารักษาศีล 5 แล้ว
เราก็ต้องคอยตรวจทานศีลอยู่เสมอ ไปดูบทความนี้กัน การรักษาศีล
5 ให้ได้ตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน