แต่ละคนก็มีเป้าหมายของชีวิตที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น
อยากเรียนให้จบ ประสบความสำเร็จทางด้านการงานการเงิน มีครอบครัวที่แสนสุข ร่ำรวย
เพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง เพื่อลูก เพื่อเป็นดารา นักร้อง นักแสดง นักธุรกิจ
เจ้าของโรงงาน ท่องเที่ยวรอบโลก ส่วนใหญ่แล้วเป้าหมายของชีวิตแต่ละคนก็จะคล้ายคลึงกัน
แต่ผู้เขียนกำลังจะบอกว่าเป้าหมายของชีวิตที่คุณต้องการได้มาเป็นแค่มายา
เป็นแค่ของชั่วคราว เพราะเมื่อคุณตายไปแล้ว
เราก็เอาอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากบุญและบาป
แล้วอย่างนี้คุณยังจะตั้งเป้าหมายของชีวิตเพื่อสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นอยู่หรือเปล่า
การตั้งเป้าหมายของชีวิตก็ต้องตั้งทั้งทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไปด้วย
ใช้ชีวิตอย่าได้ขาดสิ่งใดไป อย่าเกินไปจนทำให้อีกสิ่งหนึ่งเสียหาย
ต้องทำควบคู่กันไป
การตั้งเป้าหมายของชีวิตทางโลกก็พอจะต้องตามความต้องการของตนเองเป็นหลักแต่ในที่นี้ผู้เขียนขอแนะนำการตั้งเป้าหมายของชีวิตทางธรรมก็แล้วกัน
สิ่งแรกเลยที่คนไทยไม่ควรละเลย ก็คือการให้ทาน
ให้กับชนหมู่มาก ให้กับชนโดยส่วนรวม
ให้โดยสาธารณะประโยชน์โดยส่วนรวมจะได้บุญมากกว่าการให้เดี่ยวๆ แต่ก็ต้องให้ทั้งสองอย่างควบกันไป
(ควรจะตั้งเป้าหมายชีวิตในการให้ทานว่า ควรจะทำบุญตักบาตรทุกวัน หรือ
ทำความดีให้ได้ทุกวัน)
สิ่งที่สอง คือ การรักษาศีล 5 (การรักษาศีล 5
ให้ครบบริบูรณ์จะทำให้เรามีทรัพย์มากในวันข้างหน้า
และการถือศีล 5 ก็คือ การได้บุญตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเงินก็ได้บุญ
ควรตั้งเป้าหมายในการรักษาศีล 5 อย่างน้อยก็วันพระต้องรักษาให้ครบทุกข้อ
อย่างดีก็ควรรักษาให้ตลอดชีวิตได้ยิ่งดี)
สิ่งที่สาม การเข้าวัด ฟังธรรมตามกาล การทำสมาธิ
(การทำสมาธิการฟังธรรม จะทำให้เราเกิดปัญญาในการครอบชีพ
จะทำให้เราเป็นคนที่มีความเห็นถูก ควรตั้งเป้าหมายว่า ควรจะแบ่งเวลาไปถือบวช
หรือทำสมาธิที่วัด ทุกวันพระ หรือ เดือนละครั้ง ก็ยังดีกว่าไม่สร้างเลย)
เพราะสิ่งที่กล่าวมาล้วนแต่จะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น
ทั้งโลกนี้และโลกหน้า เพราะชีวิตที่คุณเห็นอยู่ทุกวันนี้
ไม่ได้มีอยู่แค่โลกมนุษย์อย่างเดียว มีทั้งโลกของนรก โลกของเปรต
โลกของสัตว์เดรัชฉาน(โลกของสัตว์เดรัชฉานคุณก็เห็นอยู่ทุกวัน อยากเกิดเป็นสัตว์
ก็ให้ตั้งปณิธานไว้เวลาทำบุญรับรองได้ไปเกิดสมใจ แต่ผู้เขียนขอบาย) โลกของสวรรค์
โลกของพรหม โลกของนิพพาน
ควรตั้งเป้าหมายของชีวิตทางธรรมได้แล้วว่าเราจะไปแค่ไหน.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน