วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

การวางแผนชีวิต



ช่วงเวลาตั้งแต่ 9 ขวบจนถึงอายุประมาณ 23 ปีเป็นช่วงเวลาของการเรียน เมื่อเรียนจบ แล้วก็หางานทำ ได้งาน แล้วก็มีครอบครัว มีลูก แล้วก็แก่ เจ็บป่วย แล้วตาย ช่วงชีวิตของคนเป็นวงจรอย่างนี้เสมอไม่มีที่สิ้นสุด คุณได้เตรียมการวางแผนชีวิตของคุณไว้อย่างไรบ้าง การวางแผนชีวิตของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน แต่ในที่นี้ผู้เขียนขอนำเสนอการวางแผนชีวิตในทางธรรม เมื่อใกล้ถึงไม้ใกล้ฝั่งจะได้ไม่เสียดายเวลาที่สูญเสียไปโดยไร้เปล่าประโยชน์ มาร่วมกันสร้างโลกหน้าของเราให้สดใสกันดีกว่า....

เมื่อวงจรของมนุษย์คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วเคยถามตนเองบ้างไหมว่า เราเกิดมาทำไม ตายแล้วสูญไหม ตายแล้วไปไหน ตายแล้วจะเป็นอย่างไร....หากใครมีคำถามประมาณนี้ ผู้เขียนจะตอบคำถามว่า ตายแล้วไม่สูญ ตายแล้วไปนรก สวรรค์ และนิพพาน....ทีนี้เมื่อรู้แล้วว่าเราตายแล้วไม่สูญ ตายแล้วไปนรก สวรรค์ และนิพพาน ทีนี้ก็มาถึงเวลาแล้วว่าเราจะต้องวางแผนชีวิตของเราอย่างไรดี เพื่อที่เราจะได้ไปสวรรค์ และนิพพาน หรือใครอยากจะไปนรกก็ย่อมได้ เราเลือกของเราเองไม่มีใครเลือกให้เราได้.....

ทีนี้การวางแผนชีวิตของเราเพื่อที่จะไปสวรรค์ อันดับแรกเลยคนจะไปสวรรค์ต้องรู้จักการให้ทาน อันนี้คนไทยย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าการให้ทานเป็นอย่างไร ไม่ต้องอธิบายมาก นอกจากให้ทานแล้วก็ต้องรักษาศีล 5 ถือศีลอุโบสถ บวช ตามเพศของเราที่จะทำได้....และสุดท้ายก็คือการทำสมาธิ สิ่งที่กล่าวมาคือ การวางแผนชีวิตของเราเมื่อยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่เราตายแล้วจะไปสวรรค์ และนิพพาน และถ้าใครอยากไปนรกก็ทำกันตรงข้าม รับรองไปชัว

เมื่อเรายังต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพนี้ให้อยู่รอด เราก็จำเป็นต้องแบ่งเวลาไปถือศีลบ้าง ไปทำบุญบ้าง ให้มันเสมอภาคกัน เพราะงานที่เราทำบนโลก เมื่อเราตายเราเอาอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากบุญและบาปเท่านั้น สตางค์แดงเดียวก็เอาไปไม่ได้ หากไม่มีเวลาจริงๆ ก็ให้รักษาศีล 5 เลย อันนี้ได้บุญตลอดเวลา เมื่อถึงคราวตายเราก็ไปสวรรค์เหมือนกัน....รู้จักการวางแผนชีวิตของเราแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง...จงเชื่อเถอะว่าโลกหน้ามีจริง พระพุทธเจ้าของเราก็กล่าวเช่นนี้เหมือนกัน.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มาคุณกัน