ช่วงเวลาตั้งแต่ 9 ขวบจนถึงอายุประมาณ 23 ปีเป็นช่วงเวลาของการเรียน
เมื่อเรียนจบ แล้วก็หางานทำ ได้งาน แล้วก็มีครอบครัว มีลูก แล้วก็แก่ เจ็บป่วย
แล้วตาย ช่วงชีวิตของคนเป็นวงจรอย่างนี้เสมอไม่มีที่สิ้นสุด คุณได้เตรียมการวางแผนชีวิตของคุณไว้อย่างไรบ้าง
การวางแผนชีวิตของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน แต่ในที่นี้ผู้เขียนขอนำเสนอการวางแผนชีวิตในทางธรรม
เมื่อใกล้ถึงไม้ใกล้ฝั่งจะได้ไม่เสียดายเวลาที่สูญเสียไปโดยไร้เปล่าประโยชน์
มาร่วมกันสร้างโลกหน้าของเราให้สดใสกันดีกว่า....
เมื่อวงจรของมนุษย์คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วเคยถามตนเองบ้างไหมว่า
เราเกิดมาทำไม ตายแล้วสูญไหม ตายแล้วไปไหน ตายแล้วจะเป็นอย่างไร....หากใครมีคำถามประมาณนี้
ผู้เขียนจะตอบคำถามว่า ตายแล้วไม่สูญ ตายแล้วไปนรก สวรรค์ และนิพพาน....ทีนี้เมื่อรู้แล้วว่าเราตายแล้วไม่สูญ
ตายแล้วไปนรก สวรรค์ และนิพพาน
ทีนี้ก็มาถึงเวลาแล้วว่าเราจะต้องวางแผนชีวิตของเราอย่างไรดี
เพื่อที่เราจะได้ไปสวรรค์ และนิพพาน หรือใครอยากจะไปนรกก็ย่อมได้
เราเลือกของเราเองไม่มีใครเลือกให้เราได้.....
ทีนี้การวางแผนชีวิตของเราเพื่อที่จะไปสวรรค์
อันดับแรกเลยคนจะไปสวรรค์ต้องรู้จักการให้ทาน
อันนี้คนไทยย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าการให้ทานเป็นอย่างไร ไม่ต้องอธิบายมาก
นอกจากให้ทานแล้วก็ต้องรักษาศีล 5 ถือศีลอุโบสถ บวช
ตามเพศของเราที่จะทำได้....และสุดท้ายก็คือการทำสมาธิ สิ่งที่กล่าวมาคือ
การวางแผนชีวิตของเราเมื่อยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่เราตายแล้วจะไปสวรรค์ และนิพพาน
และถ้าใครอยากไปนรกก็ทำกันตรงข้าม รับรองไปชัว
เมื่อเรายังต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพนี้ให้อยู่รอด
เราก็จำเป็นต้องแบ่งเวลาไปถือศีลบ้าง ไปทำบุญบ้าง ให้มันเสมอภาคกัน เพราะงานที่เราทำบนโลก
เมื่อเราตายเราเอาอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากบุญและบาปเท่านั้น
สตางค์แดงเดียวก็เอาไปไม่ได้ หากไม่มีเวลาจริงๆ ก็ให้รักษาศีล 5 เลย
อันนี้ได้บุญตลอดเวลา เมื่อถึงคราวตายเราก็ไปสวรรค์เหมือนกัน....รู้จักการวางแผนชีวิตของเราแต่เนิ่นๆ
จะได้ไม่เสียใจภายหลัง...จงเชื่อเถอะว่าโลกหน้ามีจริง
พระพุทธเจ้าของเราก็กล่าวเช่นนี้เหมือนกัน.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน