วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทำงานอย่างไรไม่ให้เครียด



 การเริ่มต้นทำงานถ้าอยากให้งานดีหรือ งานออกมามีประสิทธิ์ภาพให้นำข้อความข้างล่างนี้นำไปประยุกต์ใช้กับตนเอง....แล้วคุณจะรู้ว่าความเครียดจะไม่เป็นอุปสรรค์ของคุณอีกเลย...

ฉันนึกจินตนาการถึงวันที่จะเริ่มต้น นึกภาพและรู้สึกรักเพื่อให้วันนั้นผ่านไปด้วยดี ฉันนึกภาพและรู้สึกรักเพื่อให้แต่ละสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นไปด้วยดีก่อนจะลงมือทำ ฉันส่งมอบพลังแห่งความรักล่วงหน้าไปก่อนทุกสิ่งที่จะทำ ด้วยการรู้สึกรักอยู่ภายในใจให้มากเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะทำสิ่งใดก็ตาม ฉันไม่เปิดอีเมล์หรือพัสดุใดๆ ไม่โทรศัพท์หรือรับโทรศัพท์สำคัญๆ หรือไม่ทำอะไรที่สำคัญจนกว่าจะรู้สึกดี
การมาทำงานก่อนเวลาและกลับหลังเวลาเลิกปกติอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก็เป็นเรื่องสำคัญต่อความสำเร็จ ที่ผ่านมาเธอไปถึงที่ทำงานเป็นเวลาเฉียดฉิว คาบเส้นมาสายเกือบจะเป็นประจำ และกลับตรงเวลาเลิกพอดิบพอดี ต่อแต่นี้จะไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว

เธอนั่งลงที่โต๊ะ หยิบถาดเอกสารและเครื่องเขียนลงไปวางที่พื้นก่อนที่จะหยิบมาเรียงไว้ในลิ้นชัก บนโต๊ะปล่อยให้เป็นพื้นที่ว่างเปล่า  บนโต๊ะทำงานไม่ควรมีอะไรวางอยู่เลย ยกเว้นชิ้นงานทีละชิ้นที่กำลังทำอยู่เฉพาะหน้าเท่านั้น

พยายามบังคับสีหน้าให้แจ่มใส และร่าเริงตลอดเวลา  และเร่งฝีเท้าการเดินไปมาให้เร็วขึ้น ยืดตัวตรง มองไปข้างหน้าในระยะไม่ต่ำกว่า  10 เมตรทุกครั้ง ยิ้มกับคนรอบข้างมากขึ้นและหัวเราะบ่อยขึ้น
วัตถุทุกชนิดคือกลุ่มพลังงาน มันมีชีวิตมันเป็นคลื่นที่มีการสั่นสะเทือน และสามารถรับรู้เจตนารมณ์ของคนได้การที่เรานำงานชิ้นเดียวมาวางบนโต๊ะ แล้วตั้งใจทำอย่างจดจ่อ จะมีพลังงานบางอย่างที่สั่นสะเทือนเชื่อมโยงถึงกันได้ ผลก็คือชิ้นงานที่กำลังทำอยู่ สามารถรับรู้ความรัก ความตั้งใจ และความจดจ่อที่เรามีต่อมัน แล้วงานนั้นจะสื่อพลังงานสะท้อนกลับมายังเราในลักษณะเชื่อมโยงประสานสอดคล้องกัน ผลก็คือ  ความราบรื่นไม่ติดขัดในการทำงานก็จะเกิดขึ้น

คุณจะต้องจดจ่อยู่กับทุกเรื่องที่ทำ จะส่งมองความรักความเอาใจใส่และให้คำขอบคุณกับทุกกิจกรรมที่เข้าไปมีส่วนร่วม

แล้วคุณจะพบว่า  การที่ใช้จิตพูดคุยกับสิ่งที่กำลังทำอยู่  จะทำให้งานสำเร็จเร็วขึ้นและมีคุณภาพมากกว่าเดิมหลายเท่า และวันทั้งวันก็จะกลายเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์จริงๆ  คุณต้องรู้สึกขอบคุณตัวเอง  ขอบคุณงาน เพื่อนร่วมงาน  และรู้สึกชื่นชมกับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานมากเป็นพิเศษ

คุณต้องเป็นคนคิดการใหญ่ตลอดเวลา คุณต้องสร้างเอกลักษณ์และทำในสิ่งที่คนอื่นนึกไม่ถึง  คุณต้องมุ่งมั่นขยันทำงานอย่างบ้าครั่ง  และคุณต้องหิวโหยความสำเร็จให้ติดเป็นนิสัย ทุกที่ที่คุณอยู่ต้องหาทางเบียดกายออกไปยืนหัวแถวให้จงได้ นี่ดูจะเป็นเรื่องหนักอยู่สำหรับคนบางคน แต่ผมไม่ได้บังคับใคร หากคุณพอใจกับชีวิตตอนนี้กันก็แล้วแต่คุณ

ในความคิดของคุณจะต้องรักงาน ให้ความหมายของการทำงานใหม่ เช่น ตัวเองเป็นผู้ร่วมงานหรือผู้ร่วมธุรกิจ ไม่ใช่ลูกจ้าง เพราะมันจะทำให้คุณมีความสำคัญขึ้นมาทันที

การทำงานด้วยแรงขับ หรือถูกบังคับจะเกิดทุกขเวทนา ทำงานเพราะแรงจูงใจจะเกิดโลภะ แต่การทำงานด้วยความรักงาน ด้วยความรู้สึกดี ด้วยแรงบันดานใจ จะเต็มไปด้วยความสุข....ทำตัวให้บริษัทขาดคุณไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มาคุณกัน