จะว่าไปแล้วมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ล้วนแต่มีบุญนำมาเกิดทั้งนั้น
ไม่มีใครเลยที่ไม่มีฐานบุญเก่ามาเสริมไม่อย่างนั้นก็คงจะมาเกิดเป็นมนุษย์ไม่ได้
คงจะไปเกิดในแดนอื่น อย่างเช่น แดนของสัตว์เป็นต้น ว่าไปแล้วโลกที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่านี้มิใช่มีเพียงแต่เราเท่านั้น
นอกจากสัตว์ที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว ยังมีภพอื่น อย่างเช่น เปรต อสูรกาย
เทวดา พรหม สัมพเวสีเร่ร่อน
ซึ่งพวกเราที่เป็นมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ อย่าคิดว่ามีแต่เพียงเรา
คุณลองมองขึ้นไปบนฟ้านั้นดูซิแล้วคุณจะเห็นว่าคุณนั้นตัวเล็กนิดเดียวเมื่อเทียวกับจักรวาลแห่งนี้
ที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ถือว่าเราเป็นคนมีบุญ ส่วนคนไม่มีบุญ คือ
คนที่เกิดมาแล้วไม่สร้างบุญให้กับตนเองมัวแต่สร้างบาป ทำให้ตนเองตกต่ำและลงสู่ที่ต่ำ
อย่างเช่น นรก เปรต อสูรกาย และสัตว์ เป็นต้น เมื่อเราสะสมบาปมากๆ แม้ร่างกายเป็นมนุษย์
แต่ร่างกายหรือจิตวิญญาณภายในได้กลายเป็นอย่างอื่นไปแล้ว มนุษย์ยุคนี้ถ้าว่าโชคดี และโชคร้ายที่สุด
เพราะอะไร เมื่อเกิดมาแล้วสร้างแต่บุญบารมีให้ตนเองก็ถือว่าโชคดี
เมื่อตายก็จะได้เกิดในแดนสวรรค์ และเมื่อหมดบุญจากสวรรค์ก็มาเกิดเป็นมนุษย์ที่ร่ำรวยพร้อมมูลไปทุกอย่าง
ว่าง่ายๆ เกิดมาสวยแถมยังรวยอีกต่างหาก และที่ว่าโชคร้ายก็เพราะว่าเมื่อเกิดมาแล้วก็สร้างแต่บาปให้ตนเอง
เมื่อตายแล้วก็ไปลงนรก แม้พระพุทธเจ้ามาตรัส สองถึงสามองค์แล้วก็ยังไม่พ้นจากนรก
คิดดูเอาเถิดอยากเป็นคนมีบุญ หรือ เป็นคนมีบาป เราก็สามารถเลือกได้
แม้เราจะเกิดมาจนในชาตินี้แต่เราขวนขวายสร้างแต่ความดี
ความดีจะตอบแทนเราสักวันเมื่อเรามีบุญมากพอ
เพื่อจะหนีบาปที่เราก่อทั้งในปัจจุบันชาติและอดีตชาติ ไม่เราจะทำอาชีพอะไร
ขออย่าลืมสร้างความดีและสะสมบุญบารมีให้กับตนเอง
บุญเมื่อเราทำไปแล้วจะติดตามเราไปทุกหนทุกแห่งเหมือนเงาตามตัวเมื่อได้ช่องบาปไล่ตามไม่ทันเราจะได้รับผลแห่งบุญนั้นเอง
แม้จะได้ใช้ในชาติหน้าก็จงอย่าท้อแท้ในการทำดี เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะต้องเกิดอีกกี่ชาติถึงจะไปถึงจุดหมายของชีวิตนั้นก็คือนิพพาน
แดนแห่งความสุขที่ไม่ต้องมาเกิดอีก......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน