การทำบุญตักบาตรนอกจากจะเป็นการช่วยต่ออายุพุทะศาสนาแล้ว
ยังช่วยให้พระสงฆ์ได้บำเพ็ญตนเองให้หลุดพ้นจากทุกข์ และเราในฐานะของผู้ให้
ก็จะได้บุญเป็นการตอบแทน ต่อไปในภายภาคหน้าเราก็จะมีอยู่มีกินไม่อดอยาก และการทำบุญตักบาตรให้ได้บุญมาก ก็ขึ้นอยู่วาระจิตของแต่ละคนด้วยว่าคิดแบบไหน
และถ้าหากเราให้ทานด้วยและมีศีล 5 ด้วยเราก็จะได้บุญมากกว่าคนไม่มีศีล 5 และจะต้องดูวาระจิตในขณะทำบุญตักบาตรด้วย
ตัวอย่างของคนที่ทำบุญตักบาตรแล้วได้บุญมาก
๏
ในระหว่างให้ทานเขามีความคิดว่า “ให้ทานโดยมีความหวังผล
ให้ทานโดยมีจิตผูกพันในผล ให้ทานโดยมุ่งการสั่งสม (บุญ) ให้ทานโดยคิดว่า “เราตายไปจักได้เสวยผลของทานนี้” ถ้ามีความคิดอย่างนี้ผลของการทำบุญตักบาตรก็คือ
เมื่อตายไปแล้วจะทำให้ไปเกิดในชั้นที่ 1 ในโลกสวรรค์คือชั้นจาตุมหาราชิกา
และเมื่อหมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลร่ำรวย มีกินมีใช้....
๏
ในระหว่างให้ทานหรือทำบุญตักบาตรมีความคิดว่า “ ให้ทานโดยไม่มีจิตผูกพันในผล
ให้ทานโดยไม่มุ่งการสั่งสม (บุญ) ให้ทานโดยไม่คิดว่า “เราตายไปจักได้เสวยผลของทานนี้”
แต่เขาให้ทานด้วยคิดว่า “การให้ทานเป็นการดี” ถ้ามีความคิดอย่างนี้ผลของการทำบุญตักบาตรก็คือ
เมื่อตายไปแล้วจะทำให้ไปเกิดในชั้นที่ 2 ในโลกสวรรค์คือชั้นดาวดึง
และเมื่อหมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลร่ำรวย มีกินมีใช้....
๏ ในระหว่างให้ทานหรือทำบุญตักบาตรมีความคิดว่า ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า “การให้ทานเป็นการดี”
แต่ให้ทานด้วยคิดว่าบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย เคยให้เคยทำมา
เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี ถ้ามีความคิดอย่างนี้ผลของการทำบุญตักบาตรก็คือ เมื่อตายไปแล้วจะทำให้ไปเกิดในชั้นที่
3 ในโลกสวรรค์คือชั้นยามา
และเมื่อหมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลร่ำรวย มีกินมีใช้....
๏ ในระหว่างให้ทานหรือทำบุญตักบาตรมีความคิดว่า ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่าบิดามารดา ปู่ย่า ตายาย
เคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้
สมณะหรือพราหมณ์เหล่านี้ ไม่สามารถหุงหากิน เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้ไม่หุงหา
ไม่สมควร ถ้ามีความคิดอย่างนี้ผลของการทำบุญตักบาตรก็คือ เมื่อตายไปแล้วจะทำให้ไปเกิดในชั้นที่
4 ในโลกสวรรค์คือชั้นดุสิต และชั้นนี้เป็นชั้นที่มีแต่พระอริยะเจ้าชั้นโสดาบันหรือพระโพธิสัตว์เขาอยู่กัน
และเมื่อหมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลร่ำรวย มีกินมีใช้....
๏ ในระหว่างให้ทานหรือทำบุญตักบาตรมีความคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนก แจกทาน
เหมือนฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี วามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี
ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี บูชามหายัญ ถ้ามีความคิดอย่างนี้ผลของการทำบุญตักบาตรก็คือ เมื่อตายไปแล้วจะทำให้ไปเกิดในชั้นที่
5 ในโลกสวรรค์คือชั้นนิมมานรดี และเมื่อหมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลร่ำรวย
มีกินมีใช้....
๏ ในระหว่างให้ทานหรือทำบุญตักบาตรมีความคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใส
เกิดความปลื้มใจและโสมนัสถ้ามีความคิดอย่างนี้ผลของการทำบุญตักบาตรก็คือ เมื่อตายไปแล้วจะทำให้ไปเกิดในชั้นที่
6 ในโลกสวรรค์คือชั้นปรนิมมิตวสวัสดี และเมื่อหมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลร่ำรวย
มีกินมีใช้....
๏ ในระหว่างให้ทานหรือทำบุญตักบาตรมีความคิดว่า ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า
เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจและโสมนัส แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต ถ้ามีความคิดอย่างนี้ผลของการทำบุญตักบาตรก็คือ
เมื่อตายไปแล้วจะทำให้ไปเกิดในชั้นของพรหม หรือเหล่าเทวดา และเมื่อหมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเกิดในตระกูลร่ำรวย
มีกินมีใช้....
นี่แหละคือวาระจิตของแต่ละคนจะทำบุญตักบาตรแล้วได้บุญมากหรือน้อยก็ขึ้นกับตัวเราเป็นหลัก
ยิ่งจิตของเราละเอียดมากเท่าไหร่ผลบุญผลแห่งทานก็จะมากเท่านั้น
ทำบุญทุกครั้งก็ควรทำด้วยปัญญาและตั้งจุดหมายไว้ด้วยว่าเราต้องการอะไรจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
มาคุณกัน